ข่มขืนอย่างไร ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จ |
||||
---|---|---|---|---|
บางทีในแง่มุมของกฎหมาย กับ ความคิดเห็นส่วนตัว อาจจะไม่ตรงกัน แม้ว่า กฎหมายจะนำเอาหลักพื้นฐานในการคิดของสังคมนั้นมาเป็นหลักเกณฑ์ในการบัญญัติกฎหมายก็ตาม แต่หากมองในแง่มุมกฎหมายแล้ว ย่อมมีความละเอียดมากกว่าความคิดของผู้คนในสังคม |
||||
ดังนั้น การกระทำเพียงใดจึงจะถือว่า เป็นความผิดสำเร็จในแง่ของกฎหมายมาดูกัน |
||||
|
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276, 365 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 3 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 ซึ่งเป็นบทหนักจำคุก 4 ปี จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษกลับให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า 'ปัญหาว่าจำเลยได้กระทำชำเราผู้เสียหายเป็นความผิดสำเร็จแล้วหรือไม่นั้น ผู้เสียหายเบิกความว่าเข้าใจว่าเป็นสามีจึงยอมให้กระทำชำเราแต่รู้สึกผิดสังเกตเพราะทำไม่รีบชำเรา จึงเอามือลูบหน้าและร่างกายก็รู้ว่าไม่ใช่สามีผู้เสียหายตอบคำถามค้านของทนายจำเลยว่าความจริงจำเลยชักอวัยะเพศเข้าออกได้เพียงครั้งเดียว พยานเห็นผิดสังเกตเพราะรีบทำจึงเอามือคลำดู ผู้เสียหายแจ้งความนายอินทร์กำนันตามบันทึกเอกสารหมาย จ.1 ว่า กระทำชำเรายังไม่สำเร็จและบอกนายคำดีสามีว่าจำเลยกระทำชำเราไม่สำเร็จ ศาลฎีกาเหพ็นว่าที่ชำเราไม่สำเร็จนั้นเป็นความเข้าใจของชาวบ้านซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาว่าไม่ใช่สำเร็จความใคร่เพราะไม่มีการหลั่งน้ำอสุจินั้นเอง ตามคำเบิกความของผู้เสียหายดังกล่าวประกอบพฤติการณ์การกระทภของจำเลยแล้ว เชื่อว่าของลับของจำเลยได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วจึงเป็นความผิดตามฟ้อง.......................' พิพากษากลับให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น. |
โดย ทนายความเชียงใหม่ |